เพราะเหตุใดที่ลิเวอร์พูลซีซั่นนี้ถึงน่ากลัว

เพราะเหตุใดที่ลิเวอร์พูลซีซั่นนี้ถึงน่ากลัว

“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ออกสตาร์ตสองเกมแรกในศึก พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ด้วยฟอร์มที่ยอดเยี่ยม และสมคำยกย่องไม่น้อย ด้วยการโกย 6 แต้มเต็ม แถมเป็นทีมเดียวที่ยังไม่เสียประตูตอนนี้ และรั้งอันดับสองในตาราง เป็นรอง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมจ่าฝูง แค่เรื่องผลต่างประตูได้-เสียเท่านั้น

เรื่องคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก คงบ้าที่จะพูดถึงตอนนี้ แต่อย่างน้อยๆ แฟนบอล “หงส์แดง” คงรู้สึกชื่นใจไม่น้อยที่เห็นสโมสรกำลังเดินไปในทิศทางที่ถูกต้อง เห็นหลายอย่างที่ดูดีกว่าเดิม และนี่คือ 4 เหตุผลที่ทำให้ ลิเวอร์พูล อาจได้ลุ้นความสำเร็จยาวๆ ในฤดูกาล 2018/19

– ได้ อลีสซง มาเฝ้าประตู

เพราะเหตุใดที่ลิเวอร์พูลซีซั่นนี้ถึงน่ากลัว

    หลังจากที่ ลอริส คาริอุส สร้างความผิดพลาดเอาไว้ในเกมนัดชิง แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลที่แล้ว ลิเวอร์พูล จึงไม่รอช้าที่จะล่าผู้รักษาประตูคนใหม่ และสุดท้าย อลีสซง นายทวารทีมชาติบราซิล คือคนที่ถูกเลือก และถูกซื้อมาในราคาทุบสถิติโลก ณ เวลานั้นด้วย 

    แน่นอนว่า ความยอดเยี่ยมของ อลีสซง คงต้องพิสูจน์กันยาวๆ แต่จากฟอร์มที่ผ่านๆ มา ถือว่าน่าพอใจ และทำให้เพื่อนๆ ร่วมทีมอุ่นใจมากขึ้น รวมถึงแฟนบอลด้วย เพราะ อดีตมือกาว อาแอส โรม่า วัย 25 ปี มีการเล่นที่แน่นอน แถมมีจุดเด่นเรื่องการเปิดบอลยาวที่แม่นยำ ซึ่งหลายๆ คนก็คงได้เห็นกันแล้วจากเกมล่าสุดที่ ลิเวอร์พูล บุกสอย คริสตัล พาเลซ 2-0 เมื่อคืนวันจันทร์ 

– แนวรับแน่นอนขึ้น

เพราะเหตุใดที่ลิเวอร์พูลซีซั่นนี้ถึงน่ากลัว

    ฤดูกาลที่แล้วแนวรับของ ลิเวอร์พูล คือจุดอ่อนสำคัญ และมีผลทำให้ทีมเสียคะแนนไปไม่น้อย ต่อให้แนวรุกผลิตสกอร์ได้เป็นว่าเล่นก็ตาม เพราะสถิติเสียประตู 3 ลูกหรือมากกว่า ถึง 5 เกม มันฟ้องให้เห็นอย่างชัดเจนเกี่ยวกับจุดอ่อนตรงนี้ 

    อย่างไรก็ตาม การมาของ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ในช่วงครึ่งซีซั่นหลังฤดูกาลก่อน ทำให้แนวรับของทีมแกร่งขึ้นอย่างชัดเจน เพราะ ฟาน ไดค์ ไม่ใช่แค่มาเติมเต็มความแข็งแกร่งเท่านั้น แต่ปราการหลังชาวดัตช์วัย 27 ปี ยังนำมาซึ่งความเป็นผู้นำ แถมมีการเล่นลูกกลางอากาศที่ยอดเยี่ยม ซึ่งนั่นถือเป็นข้อด้อยในแนวรับของทีมมาอย่างยาวนาน 

เพราะเหตุใดที่ลิเวอร์พูลซีซั่นนี้ถึงน่ากลัว

    จากสองเกมแรกในฤดูกาลนี้ยิ่งเป็นการตอกย้ำให้เห็นว่า ฟาน ไดค์ คือหัวใจสำคัญในเกมรับ “หงส์แดง” แถมยังได้ โจ โกเมซ ที่หายเดี้ยง เป็นคู่ขา จนกลายเป็นคู่เซนเตอร์แบ็กที่ดูลงตัวไม่น้อย เพราะ โกเมซ มีความเร็ว สามารถหยุดเกมโต้กลับของคู่แข่งได้ดี ส่วน ฟาน ไดค์ สุดยอดมากเรื่องลูกโด่ง จึงสำคัญมากในการป้องกันลูกเซตพีซ     

    ส่วนฟูลแบ็กสองข้างอย่าง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ กับ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน น่าจะจองตัวจริงแบบยาวๆ ขณะที่ออปชั่นสำรองในแนวรับอย่าง เดยัน ลอฟเรน, โฌแอล มาติป, นาธาเนียล ไคลน์ และ อัลเบร์โต้ โมเรโน่ ก็สามารถเรียกใช้งานได้ยามจำเป็น หรือให้สลับกันเล่นกับตัวจริง โดยรวมแล้วขุมกำลังในแนวรับตอนนี้ถือว่าโอเคทีเดียว 

– แผงมิดฟิลด์ที่ได้รับการอัพเกรด 

เพราะเหตุใดที่ลิเวอร์พูลซีซั่นนี้ถึงน่ากลัว

    เสีย ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ในช่วงกลางซีซั่นที่แล้ว และมาเสีย เอ็มเร่ ชาน ช่วงซัมเมอร์ แต่ก็มีการดึง นาบี เกอิต้า กับ ฟาบินโญ่ เข้ามาแทน ซึ่งในรายของ ฟาบินโญ่ นั้น ยังเล่นไม่ค่อยเข้าขากับเพื่อนร่วมทีมมากนัก แต่ เกอิต้า ถือว่าเข้าตามากๆ 

    ถึงแม้ทำประตูไม่ได้มากหรือมีฝีเท้าที่จัดจ้านเหมือน คูตินโญ่ แต่ เกอิต้า เด่นมากในเรื่องเชื่อมเกม เป็นมิดฟิลด์สไตล์ “box to box” อย่างแท้จริง เป็นตัวที่ทำให้ ลิเวอร์พูล เคลื่อนเกมได้เร็วขึ้น ซึ่งสามประสานในแนวรุกอย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ คงชอบใจไม่น้อย 

เพราะเหตุใดที่ลิเวอร์พูลซีซั่นนี้ถึงน่ากลัว

    หาก จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กลับมาฟิตสมบูรณ์และกลับสู่ทีมตัวจริง เกอิต้า คงจะมีอิสระในการเล่นเกมรุกมากขึ้น เหมือนกับ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ที่ เชลซี ส่วน ฟาบินโญ่ ต้องพยายามพิสูจน์ตัวเองต่อไป หากคิดจะก้าวขึ้นมาเป็นตัวจริงในแผงมิดฟิลด์สามตัว เพราะตอนนี้ จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม คือคนที่กุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ ไว้ใจ แต่โดยรวมแล้วขุมกำลังกองกลางตอนนี้ถือว่าดูดีไม่น้อย โดยเฉพาะเรื่องความลงตัวและความคล่องตัว 

– สำรองดูมีคุณภาพมากขึ้น

เพราะเหตุใดที่ลิเวอร์พูลซีซั่นนี้ถึงน่ากลัว

    ฤดูกาลที่แล้ว ลิเวอร์พูล พึ่งพาพลังสังหารของ มาเน่, ซาลาห์ และ ฟีร์มีโน่ เป็นหลัก แต่ก็ไม่ปฏิเสธหรอกว่า ฤดูกาลนี้ก็คงต้องพึ่งสามคนนี้อีก อย่างไรก็ตาม การย้ายเข้ามาของ เซอร์ดาน ชากิรี่ ทำให้ทีมมีตัวสำรองที่มีคุณภาพสูง ขณะที่ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ก็ดูเหมือนกลับมาเป็นดาวยิงที่ยอดเยี่ยมอีกครั้ง

    มองมาที่แดนกลาง ก็อย่างที่บอกเอาไว้ในข้อที่แล้ว นาบี เกอิต้า การันตีตัวจริงไว้แน่นอนหนึ่งตำแหน่ง ส่วน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม, ฟาบินโญ่ และ เจมส์ มิลเนอร์ สามารถสลับกันลงเล่นได้สบายๆ แถมยังมี อดัม ลัลลานา อีกคนด้วย 

เพราะเหตุใดที่ลิเวอร์พูลซีซั่นนี้ถึงน่ากลัว

    ส่วนแดนหลัง แม้ลึกๆ ยังหวั่นใจเรื่องความคงเส้นคงวาของคนที่จะลงมายืนเป็นคู่ขา ฟาน ไดค์ แต่อย่างน้อย คล็อปป์ ก็มีผู้เล่นกองหลังให้เลือกใช้งานแบบเพียงพอ แถม ฟาบินโญ่ ยังสามารถลงมายืนในแนวรับได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นแบ็กขวาหรือปราการหลังตัวกลาง แต่ที่น่าเป็นห่วงก็คือผู้รักษาประตูสำรองนี่แหละ เพราะ “เดอะ ค็อป” คงต้องลุ้นกันหนัก หากวันใด อลีสซง ไม่ได้ลงเฝ้าเสา เนื่องจากมีตัวสำรองอย่าง ซิมง มินโญเลต์ กับ ลอริส คาริอุส ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่แน่นอนว่า ใครย้าย ใครอยู่ แต่ที่แน่ๆ คือสองคนนี้ฟอร์มไม่น่าไว้วางใจ 

    … ฤดูกาลนี้เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น แน่นอนว่า ยังไม่สามารถวัดอะไรได้ในตอนนี้ แต่อย่างน้อยการออกสตาร์ทที่ดี และการเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นของ ลิเวอร์พูล ทำให้แฟนบอลสามารถคาดหวังถึงความสำเร็จได้ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่า คล็อปป์ และลูกทีมจะทำได้ดีแค่ไหน และมีความคงเส้นคงวาหรือไม่…

เครดิตโดย : www.ufa-thailand.com

LINE : @ufathailand